
นับแต่การผงาดขึ้นนั่งบัลลังก์ผู้นำประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยายามที่จะปลดแอกจากพี่ชายเพื่อเป็นตัวของตัวเองในระดับหนึ่ง เธอจึงต้องค่อยๆ ก้าวเดินในช่วง ๒ ปีแรก ท่ามกลางความหวาดระแวงระหว่างรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกับกองทัพหลังการสลายการชุม ชุนใหญ่ในปี 2553 แต่กระนั้นสถานการณ์ในช่วงแรกของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ได้หนุนเนื่องให้กองทัพ และรัฐบาลร่วมงานกันได้ด้วยดี เนื่องจากกองทัพบก โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หันกลับมาสนับสนุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประคับประคองเธอให้ปีกกล้าขาแข็ง อีกทั้งยังอยู่เบื้องหลังการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหญิงอีกด้วยแต่ทุกอย่างก็ล่มสลาย เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใจร้อน ต้องการกลับประเทศด้วยการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อให้ตนเองได้กลับประเทศ ถึงแม้ร่างกฎหมายนี้อาจทำให้ทุกคนทุกฝ่ายพ้นผิด แต่ความเกลียดชังที่มีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มีมากกว่า ศัตรูเก่ามากมายที่รอจังหวะเวลามานานจึงได้เริ่มเผยตัวออกมาจากมุมมืด บ้างที่ใส่หน้ากากมิตรภาพก็ร่วมกฐินสามัคคีกันอีกครั้ง เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังการล้มอำนาจของเขายังอยู่กันครบถ้วนและพร้อมหน้า เพื่อที่จะล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและจัดตั้งรัฐบาลคนกลาโดยอ้างเรื่องการ ปฏิรูปประเทศ ขณะที่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงที่จนตรอก ก็พร้อมที่จะสู้ทุกหนทางเช่นกัน
หนังสือ “ลับ ลวง พราง ภาค ๘ อวสานยิ่งลักษณ์?” จึงเป็นหนังสือเล่มสำคัญที่ “วาสนา นาน่วม” แกะรอยและเปิดเผยทุกแง่มุมของการทหาร-การเมืองไทย ซึ่งถือว่ากลับมาสู่จุดล่อแหลมอีกครั้งหนึ่งนับเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกครั้งหลังจากรัฐบาลประกาศยุบสภาว่าจะเป็น อย่างไร หัวเลี้ยวหัวต่อของกองทัพว่าจะหันกลับไปซบเงาฝ่ายอำมาตย์หรือไม่ คนในกองทัพเริ่มแบ่งฝ่ายตั้งป้อมกันอย่างเปิดเผยมากแค่ไหนและแน่ใจหรือว่าจะไม่มีปฏิวัติเกิดขึ้นอีกครั้ง...อีกทั้งการปฏิวัตินั้นจะ ต้องเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของกองทัพเพียงเท่านั้นล่ะหรือ...
ขอขอบพระคุณข่าวและภาพจาก...http://www.matichonbook.com/index.php/matichonbook/bestseller/978-974-02-1274-4.html