นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากนโยบายยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.56 และรัฐบาลให้เวลาในการล้างสต๊อกจนถึงเดือน มี.ค.56  นั้น สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทั่วประเทศ จะจำหน่ายน้ำมัน       ค้างสต็อกที่เหลือจากปลายปีที่แล้ว ประมาณ 35 ล้านลิตร ให้หมดภายในกลางเดือน ม.ค.นี้ และตั้งแต่ ก.พ.56 เป็นต้นไป ก็จะเปลี่ยนมาให้บริการ PTT Blue Gasohol E20 แทน หากปั๊มใดมีน้ำมัน E20 อยู่แล้ว ก็จะล้างถังแล้วทดแทนด้วยน้ำมันเบนซิน 95 เพื่อให้ผู้บริโภคที่ยังต้องใช้เบนซิน 91 มีทางเลือกในการปรับใช้เชื้อเพลิงและปรับแต่งสภาพรถยนต์ รวมทั้งยังช่วยทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ในระดับที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค  ทั้งนี้ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ทั่วประเทศกว่า 1,300 แห่ง ที่จำหน่ายเบนซิน 91 อยู่กว่า 1,000 แห่ง จะเปลี่ยนมาจำหน่าย E20 จำนวน 250 แห่ง   E85  จำนวน 50 แห่ง  แก๊สโซฮอล 91 จำนวน 100 แห่ง และอีก 600 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่มีน้ำมัน E20 อยู่แล้วก็จะปรับให้มีเบนซิน 95 จำหน่ายเพิ่มเติมด้วย

        “เป้าหมายการขยายปั๊ม E20 ของ ปตท. ในปีนี้ จะเพิ่มสูงขึ้นจากที่เคยวางไว้ โดยปรับเป้า E20 จาก600 แห่ง เป็น 850 แห่งทั่วประเทศ โดยคาดว่ายอดจำหน่ายจะเติบโตมากกว่า 80% ของยอดเฉลี่ยปี 55 เนื่องจากผู้บริโภคจะเลือกหาปั๊มน้ำมันได้สะดวกสบาย และมีความมั่นใจใช้แก๊สโซฮอลมากยิ่งขึ้น” นายสรัญฯ กล่าวเพิ่มเติม

        ทั้งนี้ ปี 2555 ที่ผ่านมา ปตท. ครองใจผู้บริโภคโดยครองส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันในประเทศ 35.7% จัดว่าเป็นอันดับ 1 ติดต่อกันถึง 20  ปี ดังนั้น หาก ปตท. สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เชื่อว่าจะช่วยรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนทั่วประเทศ หันมาใช้พลังงานทดแทน ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยประเทศลดการนำเข้าน้ำมัน และยังช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย