อ่านก่อนวันสิ้นโลก
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนโลกแตก
เชื่อได้เลยว่าตอนนี้หลายคนคงยังช็อกไม่หาย กับวิกฤตการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ไปจนถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับโลกของเราในรอบหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสึนามิ, แผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด, ฝนแล้ง, ธารน้ำแข็งละลาย หรือคลื่นความร้อนแผ่กระจาย ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้นับวันยิ่งเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนน่าสงสัย สอดคล้องกับปฏิทินของชนเผ่ามายา ที่กำหนดวันสุดท้ายของปฏิทิน คือวันที่ 21 ธ.ค.2012 ทำให้หลายคนอาจตั้งข้อสงสัยว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา โลกจะแตกหรือไม่ และควรรับมือกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร
เมื่อไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าวิกฤตการณ์ปัญหาภัยพิบัติเหล่านี้ หรือโลกจะแตกเมื่อไร สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี และยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้ร่วมกันจัดพิมพ์หนังสือ "อ่านก่อนถึงวันสิ้นโลก" โดยเป็นหนังสือที่รวบรวมข้อมูลอันเป็นประโยชน์ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์, พุทธพยากรณ์, คำสอนครูบาอาจารย์, คำทำนายจากผู้รู้, ทรรศนะจากผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ อาทิ พระธรรมโกศาจารย์, พระอาจารย์สำราญ ธัมมธุโร, พระไพศาล วิสาโล, ดร.สมิทธ ธรรมสโรช, ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา, ดร.ก้องภพ อยู่เย็น, ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ, อนุรุธ ว่องวานิช และดนัย จันทร์เจ้าฉาย เป็นต้น
อนุรุธ ว่องวานิช นายกยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้ร่วมเขียนและผู้ริเริ่มแนวคิดทำหนังสือ "อ่านก่อนวันสิ้นโลก" เผยว่า การจัดทำหนังสือเล่มนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่เห็นภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดกับโลก ไม่ว่าจะเป็นสึนามิที่ไทย ที่ญี่ปุ่น หรือเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ออสเตรเลีย จึงเกิดแนวคิดในการจัดเสวนาเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติบนโลกของเรา ประกอบกับการที่สมาคมมีหน้าที่เผยแผ่ธรรมะและการฝึกสมาธิ งานเสวนาที่เกิดขึ้นจึงเป็นงานเสวนาที่เชิญผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านวิทยาศาสตร์ และด้านธรรมะมาร่วม ซึ่งเมื่อหลังงานเสวนาพบว่าได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งข้อมูลในเวทีเสวนานับได้ว่าเป็นประโยชน์มาก จนไม่อยากให้ความรู้จบไปกับเวทีเสวนา สิ่งเหล่านี้จึงนำไปสู่การจัดทำเป็นหนังสือ
ด้าน ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี และผู้ร่วมเขียน เล่าว่า "อ่านก่อนวันสิ้นโลก" เป็นหนังสือที่ผสมผสานศาสตร์และองค์ความรู้ในหลากหลายแขนง จากผู้รู้ในแต่ละแขนงมาแบ่งปันข้อมูลกัน ตัวหนังสือจึงมีความน่าสนใจ สามารถอ่านได้ทุกเพศทุกวัย โดยเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ที่ตัวเขาเองได้เขียนนั้น เป็นเนื้อหาที่ได้จากการสนทนากับเหล่าครูบาอาจารย์ต่างๆ ในหัวข้อ "ผู้มีปัญญากำลังหนีออกจากโลก" กล่าวถึงโลกที่ไม่นานจะเต็มไปด้วยน้ำ ที่แม้เมื่อแต่ละครั้งที่น้ำได้แวะเวียนมาหาเรา ภายนอกจะมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี แต่จิตใจของมนุษย์เรากลับวิตกกังวล ปล่อยให้ลอยไปกับน้ำ จนอยากหนีปัญหาด้วยการหนีออกจากโลก
"แท้จริงแล้ว การให้ตัวเราเองไม่ต้องทุกข์กับปัญหาเหล่านี้ สามารถทำได้ด้วยการฝึกอบรมจิตใจของตัวเองให้อยู่กับตัวเอง เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ ไม่ปล่อยให้ใจเราลอยไปกับน้ำ เพราะถ้ามนุษย์เรารักษาใจของเราได้ จะที่ไหนก็สามารถอยู่ได้"
ปิดท้ายด้วย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา นักวิเคราะห์ธรณีวิทยาและภัยพิบัติ อดีตนักวิทยาศาสตร์องค์การนาซา หนึ่งในผู้เขียน เล่าถึงเนื้อหาบางช่วงบางตอนในหนังสือว่า เริ่มแรกเราต้องเข้าใจก่อนว่าอุทกภัยน้ำท่วมนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะเมื่อโลกเราร้อนขึ้น อุณหภูมิเกิดการเปลี่ยน น้ำก็ระเหยเยอะขึ้นกว่าเดิม ฝนก็จะตกเยอะขึ้น เมื่อฝนเยอะน้ำก็จะมากขึ้น สิ่งที่จะตามมาก็คือ พายุและอุทกภัย ซึ่งแนวโน้มของปริมาณน้ำในโลกที่สูงขึ้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด กลับกันมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในแต่ละปีในการประชุมโลกว่าด้วยเรื่องสภาวะโลกร้อน ทุกครั้งก็จะได้เห็นภาพของประเทศพัฒนาแล้วทะเลาะกับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วก็จะบอกว่าพัฒนาไปไกลแล้วหยุดไม่ได้ แต่ประเทศกำลังพัฒนาควรหยุดกระบวนการผลิตที่ส่งผลต่ออุณหภูมิโลก ส่วนประเทศกำลังพัฒนาก็บอกตัวเองอยู่ในช่วงพัฒนา พวกที่พัฒนาแล้วควรเป็นฝ่ายที่หยุด
"ปัญหาใหญ่ของมนุษย์คือการคิดว่าตัวเองเล็ก เลยรอให้คนอื่นมาทำ ยิ่งต่างคนต่างคิดเหมือนกันก็ยิ่งไม่ได้ทำ หากแต่จริงๆ แล้ว เราควรคิดโดยการเริ่มจากตัวเราเอง จัดการตัวเองว่าควรจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร จะทำให้โลกดีขึ้นได้อย่างไร ไม่ใช่มัวแต่รอคนอื่นมาทำ"
ทั้งนี้ หนังสือ "อ่านก่อนถึงวันสิ้นโลก" จำนวน 280 หน้า ราคา 245 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ และร้านดีบุ๊กส์ ชั้น 22 อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ถนนเพลินจิต (BTS ชิดลม) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร.0-2685-2254-5 หรือ www.dmgbooks.com.
ขอขอบคุณ ภาพและข่าว จาก หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ http://www.thaipost.net/node/52084